ค่า r ใน Pearson’s correlation coefficient มีเกณฑ์ความสัมพันธ์อย่างไร ถ้าหากความสัมพันธ์ในระดับต่ำมีผลอะไรไหม

เกณฑ์ความสัมพันธ์สำหรับ r ในค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สันใช้เพื่อกำหนดทิศทางของความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรสองตัว ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ (r) อยู่ในช่วงตั้งแต่ -1 ถึง 1 และยิ่งค่าสัมประสิทธิ์เข้าใกล้ 1 มากเท่าไหร่ ความสัมพันธ์เชิงบวกระหว่างตัวแปรก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น และยิ่งค่าสัมประสิทธิ์เข้าใกล้ -1 มากเท่าไหร่ ความสัมพันธ์เชิงลบระหว่างตัวแปรก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น

โดยทั่วไป ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของ:

  • สูงกว่า 0.7 ถือเป็นความสัมพันธ์เชิงบวกระดับมาก
  • ระหว่าง 0.5 ถึง 0.7 ถือเป็นความสัมพันธ์เชิงบวกระดับปานกลาง
  • ต่ำกว่า 0.5 ถือว่ามีความสัมพันธ์เชิงบวกที่อ่อนแอ
  • สูงกว่า -0.7 ถือเป็นความสัมพันธ์เชิงลบที่ระดับมาก
  • ระหว่าง -0.5 ถึง -0.7 ถือเป็นความสัมพันธ์เชิงลบระดับปานกลาง
  • ต่ำกว่า -0.5 ถือเป็นความสัมพันธ์เชิงลบที่อ่อนแอ

ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ต่ำ (r) ในค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สันบ่งชี้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรทั้งสองนั้นอ่อนแอ ซึ่งอาจส่งผลต่อการแปลผลและข้อสรุปที่ได้จากการวิจัย อาจบ่งชี้ว่าปัจจัยอื่นๆ มีความสำคัญมากกว่าในการอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรทั้งสอง

ตัวอย่างเช่น สมมติว่านักวิจัยต้องการทราบว่ามีความสัมพันธ์ระหว่างจำนวนชั่วโมงในการออกกำลังกายกับการลดน้ำหนักหรือไม่ ผู้วิจัยรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างบุคคลและคำนวณค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน (r) ระหว่างจำนวนชั่วโมงของการออกกำลังกายและการลดน้ำหนัก สมมติว่าค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์คือ 0.2 สิ่งนี้บ่งชี้ว่ามีความสัมพันธ์เชิงบวกที่อ่อนแอระหว่างจำนวนชั่วโมงของการออกกำลังกายและการลดน้ำหนัก ผู้วิจัยอาจสรุปได้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างจำนวนชั่วโมงของการออกกำลังกายและการลดน้ำหนักนั้นอ่อนแอ และปัจจัยอื่นๆ อาจมีความสำคัญมากกว่าในการอธิบายการลดน้ำหนัก เช่น อาหารหรือปัจจัยทางพันธุกรรม

ช่องทางติดต่อ
Tel: 0924766638 คุณอาจุ้ย
อีเมล: ichalermlarp@gmail.com
LINE: @impressedu
(หยุดทุกวันอาทิตย์)

Related posts:

บทบาทของการศึกษาความพิการในการวิจัยในชั้นเรียน
ความสำคัญของการใช้โครงสร้างเชิงตรรกะและการจัดองค์กรในการนำบทความวิชาการมานำเสนอข้อมูลอย่างชัดเจนและส...
ความสำคัญของการใช้หลักฐานและตัวอย่างในการแนะนำวิทยานิพนธ์เพื่อสนับสนุนคำถามหรือปัญหาการวิจัย
บทบาทของบทนำวิทยานิพนธ์ในการสรุปประเด็นหลักและข้อโต้แย้งของวิทยานิพนธ์
การวิจัยในภาษาศาสตร์และความรัก – พวกเขาเหมือนกันอย่างไร
หัวข้อวิจัยที่เกี่ยวกับวิทยุโทรทัศน์ 20 เรื่อง พร้อมตัวอย่างย่อๆ ที่ต้องศึกษา
กระบวนการพัฒนาแบบสำรวจหรือแบบสอบถามการวิจัย
หัวข้อวิจัยที่เกี่ยวกับสายสังคมศาสตร์ 20 เรื่อง พร้อมตัวอย่างย่อๆ ที่ต้องศึกษา