ทำไมต้องทดสอบสมมติฐาน พร้อมยกตัวอย่างการทดสอบสมมติฐานให้ชัดเจน

การทดสอบสมมติฐานเป็นขั้นตอนสำคัญในกระบวนการวิจัย ช่วยให้นักวิจัยสามารถระบุได้ว่าการคาดการณ์หรือสมมติฐานเกี่ยวกับปรากฏการณ์เฉพาะนั้นได้รับการสนับสนุนจากข้อมูลหรือไม่ ต่อไปนี้เป็นเหตุผลบางประการที่การทดสอบสมมติฐานมีความสำคัญ พร้อมตัวอย่างการทดสอบสมมติฐานที่ชัดเจน:

  1. เพื่อสนับสนุนหรือปฏิเสธทฤษฎี: การทดสอบสมมติฐานเป็นวิธีสนับสนุนหรือปฏิเสธทฤษฎี ตัวอย่างเช่น นักวิจัยอาจมีทฤษฎีว่าการเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ตำรวจตามท้องถนนจะลดอาชญากรรม สมมุติฐานคือการเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำให้อาชญากรรมลดลง โดยการทดสอบสมมติฐานนี้ ผู้วิจัยสามารถระบุได้ว่าทฤษฎีนั้นได้รับการสนับสนุนจากข้อมูลหรือไม่ หรือจำเป็นต้องแก้ไขหรือไม่
  2. เพื่อระบุรูปแบบหรือความสัมพันธ์ในข้อมูล: การทดสอบสมมติฐานสามารถช่วยให้นักวิจัยระบุรูปแบบหรือความสัมพันธ์ในข้อมูลได้ ตัวอย่างเช่น ผู้วิจัยอาจตั้งสมมติฐานว่ามีความสัมพันธ์ระหว่างระดับรายได้และระดับการศึกษา จากการทดสอบสมมติฐานนี้ ผู้วิจัยสามารถระบุได้ว่ามีความสัมพันธ์ระหว่างรายได้และระดับการศึกษาหรือไม่ และถ้าเป็นเช่นนั้น จุดแข็งของความสัมพันธ์นั้นคืออะไร
  3. ในการคาดคะเน: การทดสอบสมมติฐานสามารถใช้ในการคาดคะเนเกี่ยวกับเหตุการณ์หรือการสังเกตในอนาคตได้ ตัวอย่างเช่น นักวิจัยอาจตั้งสมมติฐานว่ายาชนิดใหม่จะมีประสิทธิผลในการรักษาภาวะบางอย่าง จากการทดสอบสมมติฐานนี้ ผู้วิจัยสามารถคาดการณ์เกี่ยวกับประสิทธิภาพของยาและวิธีการใช้ยาในอนาคต
  4. เพื่อเป็นแนวทางในการวิจัยเพิ่มเติม: การทดสอบสมมติฐานสามารถเป็นแนวทางการวิจัยเพิ่มเติมได้โดยการระบุพื้นที่ที่ต้องการการวิจัยเพิ่มเติม ตัวอย่างเช่น หากสมมติฐานของนักวิจัยไม่ได้รับการสนับสนุนจากข้อมูล อาจบ่งชี้ว่าผู้วิจัยจำเป็นต้องสำรวจตัวแปรอื่นๆ หรือรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อทำความเข้าใจปรากฏการณ์ที่กำลังตรวจสอบให้ดียิ่งขึ้น
  5. เพื่อเป็นหลักฐานในการตัดสินใจ: การทดสอบสมมติฐานสามารถให้หลักฐานในการตัดสินใจได้ ตัวอย่างเช่น นักวิจัยอาจตั้งสมมติฐานว่ากลยุทธ์ทางการตลาดบางอย่างจะนำไปสู่การเพิ่มยอดขาย โดยการทดสอบสมมติฐานนี้ ผู้วิจัยสามารถแสดงหลักฐานสำหรับประสิทธิภาพของกลยุทธ์ทางการตลาดและให้คำแนะนำสำหรับการนำไปใช้

ตัวอย่างการทดสอบสมมติฐาน:

  1. นักวิจัยตั้งสมมติฐานว่ายาตัวใหม่จะลดความดันโลหิตได้ พวกเขาทำการศึกษากับกลุ่มผู้ป่วยที่รับประทานยาและกลุ่มผู้ป่วยที่ได้รับยาหลอก และวัดความดันโลหิตของทั้งสองกลุ่มก่อนและหลังการรักษา
  2. นักวิจัยตั้งสมมติฐานว่ามีความสัมพันธ์ระหว่างความเครียดกับโรคหัวใจ พวกเขาทำการศึกษากับกลุ่มผู้เข้าร่วม วัดระดับความเครียด และติดตามอุบัติการณ์ของโรคหัวใจในช่วงระยะเวลาหนึ่ง
  3. นักวิจัยตั้งสมมติฐานว่ามีความสัมพันธ์ระหว่างกิจกรรมทางกายและการทำงานของสมอง พวกเขาทำการศึกษากับกลุ่มผู้เข้าร่วม วัดระดับกิจกรรมทางกายและการทำงานของการรับรู้ และติดตามการทำงานของการรับรู้เมื่อเวลาผ่านไป

โดยสรุปแล้ว การทดสอบสมมติฐานเป็นขั้นตอนที่สำคัญในกระบวนการวิจัย ช่วยให้นักวิจัยสนับสนุนหรือปฏิเสธทฤษฎี ระบุรูปแบบหรือความสัมพันธ์ในข้อมูล คาดการณ์ แนะนำการวิจัยเพิ่มเติม และให้หลักฐานสำหรับการตัดสินใจ ด้วยการทดสอบสมมติฐาน นักวิจัยสามารถเข้าใจปรากฏการณ์ภายใต้การตรวจสอบอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น และตัดสินใจอย่างรอบรู้มากขึ้น

ช่องทางติดต่อ
Tel: 0924766638 คุณอาจุ้ย
อีเมล: ichalermlarp@gmail.com
LINE: @impressedu
(หยุดทุกวันอาทิตย์)