การวิจัยเชิงคุณภาพคืออะไร กล่าวคือเป็นวิธีการวิจัยที่มุ่งเน้นการศึกษาปรากฏการณ์ทางสังคมในบริบทที่เป็นธรรมชาติ โดยใช้ข้อมูลที่ไม่ใช่ตัวเลข (non-numerical data) เช่น ข้อความ รูปภาพ วิดีโอ เพื่อทำความเข้าใจความหมาย ประสบการณ์ มุมมอง และความรู้สึกของผู้คนที่มีต่อประเด็นที่ศึกษา
ลักษณะสำคัญของการวิจัยเชิงคุณภาพ:
- เน้นการศึกษาแบบองค์รวม: มองปรากฏการณ์ที่ศึกษาในบริบทที่เป็นธรรมชาติ พิจารณาปัจจัยแวดล้อม ความสัมพันธ์ และพลวัตต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
- ใช้ข้อมูลเชิงคุณภาพ: ข้อมูลที่ไม่ใช่ตัวเลข เช่น ข้อความ รูปภาพ วิดีโอ บันทึกการสังเกต ฯลฯ
- มุ่งทำความเข้าใจในทางลึก: วิเคราะห์ข้อมูลอย่างละเอียดเพื่อหาคำตอบที่ลึกซึ้ง
- มีการออกแบบที่ยืดหยุ่น: สามารถปรับเปลี่ยนวิธีการเก็บข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลตามสถานการณ์
- อาศัยการตีความ: นักวิจัยมีบทบาทสำคัญในการตีความข้อมูลและหาข้อสรุป
วิธีการเก็บข้อมูลที่ใช้ใน การวิจัยเชิงคุณภาพ:
- การสัมภาษณ์เชิงลึก: สัมภาษณ์ผู้ให้ข้อมูลแบบตัวต่อตัวเพื่อเจาะลึกประเด็นที่ศึกษา
- การสนทนากลุ่ม: นำผู้ให้ข้อมูลมาพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นที่ศึกษา
- การสังเกต: สังเกตพฤติกรรมของผู้ให้ข้อมูลในบริบทที่เป็นธรรมชาติ
- การวิเคราะห์เอกสาร: วิเคราะห์เอกสาร ข้อความ รูปภาพ วิดีโอ ที่เกี่ยวข้องกับประเด็นที่ศึกษา
ตัวอย่างการวิจัยเชิงคุณภาพ:
- การศึกษาประสบการณ์ของผู้ป่วยโรคมะเร็ง
- การศึกษาความเชื่อของวัยรุ่นเกี่ยวกับความรัก
- การศึกษาพฤติกรรมการบริโภคของผู้บริโภค
- การศึกษาประสิทธิภาพของโครงการพัฒนาชุมชน
ข้อดีของการวิจัยเชิงคุณภาพ:
- เข้าใจความหมาย ประสบการณ์ มุมมอง และความรู้สึกของผู้คนที่มีต่อประเด็นที่ศึกษาได้อย่างลึกซึ้ง
- ค้นพบข้อมูลเชิงลึกที่ไม่สามารถหาได้จากการวิจัยเชิงปริมาณ
- เหมาะสำหรับการศึกษาประเด็นที่ซับซ้อนหรือใหม่
ข้อจำกัดของการวิจัยเชิงคุณภาพ:
- ข้อมูลอาจมีความอัตวิสัย ขึ้นอยู่กับมุมมองของนักวิจัย
- ผลการวิจัยอาจไม่สามารถนำไปสรุปผลกับประชากรกลุ่มใหญ่ได้
- ใช้เวลาและทรัพยากรมากกว่าการวิจัยเชิงปริมาณ
สรุป:
การวิจัยเชิงคุณภาพเป็นวิธีการวิจัยที่มีประโยชน์ในการศึกษาปรากฏการณ์ทางสังคมในบริบทที่เป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับการศึกษาประเด็นที่ซับซ้อนหรือใหม่ และต้องการความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง