IRR เคล็ดลับลงทุนให้ได้ผลตอบแทนสูงสุด รู้ไว้ก่อนลงทุนจะได้ไม่พลาด

ในการลงทุน ผลตอบแทนเป็นสิ่งที่นักลงทุนทุกคนต่างคาดหวังกัน แต่การจะรู้ว่าการลงทุนนั้นให้ผลตอบแทนคุ้มค่าหรือไม่ จำเป็นต้องใช้เครื่องมือในการประเมินผลตอบแทน ซึ่งหนึ่งในเครื่องมือที่นิยมใช้กันคือ IRR หรือ Internal Rate of Return

IRR คืออะไร

IRR ย่อมาจาก Internal Rate of Return หมายถึง อัตราคิดลดที่ทำให้มูลค่าปัจจุบันของกระแสเงินสดสุทธิ (Net Present Value: NPV) เท่ากับศูนย์ พูดง่ายๆ ก็คือ IRR คือ อัตราผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับจากการลงทุน

วิธีคำนวณ IRR

การคำนวณ IRR สามารถทำได้หลายวิธี เช่น การคำนวณด้วยตนเองด้วยสูตรคณิตศาสตร์หรือใช้โปรแกรมสำเร็จรูป เช่น Excel หรือ Google Sheets ตัวอย่างสูตรการคำนวณ IRR ด้วยตนเองมีดังนี้

IRR = (NPV + 1) / (NPV - 1)

โดย NPV คือ มูลค่าปัจจุบันของกระแสเงินสดสุทธิ

ตัวอย่างการคำนวณ IRR

สมมติว่าเรามีโครงการลงทุนมูลค่า 100,000 บาท โดยคาดว่าจะมีกระแสเงินสดสุทธิในปีแรก 20,000 บาท ในปีที่สอง 30,000 บาท และในปีที่สาม 50,000 บาท อัตราดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ที่ 5%

การคำนวณ IRR ด้วยสูตร Excel มีดังนี้

=XIRR(C2:C4,B2:B4,100000)

ผลลัพธ์ที่ได้คือ 15.24% หมายความว่า การลงทุนนี้ให้ผลตอบแทนที่ 15.24% ต่อปี

IRR กับการตัดสินใจลงทุน

IRR เป็นเครื่องมือสำคัญในการตัดสินใจลงทุน โดยหาก IRR สูงกว่าต้นทุนเงินลงทุน การลงทุนนั้นถือว่าให้ผลตอบแทนคุ้มค่า และควรพิจารณาลงทุน แต่ถ้า IRR ต่ำกว่าต้นทุนเงินลงทุน การลงทุนนั้นถือว่าให้ผลตอบแทนไม่คุ้มค่า และควรพิจารณาไม่ลงทุน

ยกตัวอย่างเช่น การลงทุนโครงการก่อสร้างบ้านพักตากอากาศมูลค่า 1 ล้านบาท โดยคาดว่าจะมีกระแสเงินสดสุทธิในปีแรก 200,000 บาท ในปีที่สอง 300,000 บาท และในปีที่สาม 500,000 บาท อัตราดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ที่ 5%

การคำนวณ IRR พบว่า IRR เท่ากับ 15% หมายความว่า การลงทุนนี้ให้ผลตอบแทนที่ 15% ต่อปี ซึ่งสูงกว่าต้นทุนเงินกู้ที่ 5% ดังนั้น การลงทุนนี้จึงถือว่าให้ผลตอบแทนคุ้มค่า และควรพิจารณาลงทุน

ข้อดีและข้อจำกัดของ IRR

ข้อดีของ IRR ที่ทำให้เป็นเครื่องมือที่นิยมใช้กันคือ

  • เป็นเครื่องมือที่เข้าใจง่าย
  • สามารถนำมาเปรียบเทียบผลตอบแทนจากการลงทุนที่แตกต่างกันได้

ข้อจำกัดของ IRR มีดังนี้

  • ไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบผลตอบแทนจากการลงทุนที่มีระยะเวลาต่างกันได้
  • ไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบผลตอบแทนจากการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่างกันได้

สรุป

IRR เป็นเครื่องมือสำคัญในการตัดสินใจลงทุน โดยหาก IRR สูงกว่าต้นทุนเงินลงทุน การลงทุนนั้นถือว่าให้ผลตอบแทนคุ้มค่า และควรพิจารณาลงทุน แต่ถ้า IRR ต่ำกว่าต้นทุนเงินลงทุน การลงทุนนั้นถือว่าให้ผลตอบแทนไม่คุ้มค่า และควรพิจารณาไม่ลงทุน

นอกจากการใช้ IRR ในการตัดสินใจลงทุนแล้ว นักลงทุนควรพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ด้วย เช่น ความเสี่ยงของการลงทุน ระยะเวลาคืนทุน เป็นต้น เพื่อให้การลงทุนนั้นมีประสิทธิภาพและได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า