ประเภทของการวิจัยเชิงผสม

การวิจัยเชิงผสม (Mixed Methods Research) เป็นการวิจัยที่ผสมผสานวิธีการวิจัยเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณเข้าด้วยกันเพื่อศึกษาปัญหาการวิจัยอย่างครอบคลุมและลึกซึ้ง การวิจัยประเภทนี้ได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน เพราะช่วยให้เข้าใจปรากฏการณ์ที่ซับซ้อนได้ดีกว่าการใช้เพียงวิธีใดวิธีหนึ่งเพียงอย่างเดียว

ประเภทของการวิจัยเชิงผสม

การวิจัยเชิงผสมสามารถแบ่งออกเป็นประเภทต่างๆ ได้หลายแบบ ขึ้นอยู่กับเกณฑ์ที่ใช้ในการแบ่ง ขึ้นอยู่กับ ลำดับเวลา ของการเก็บข้อมูล จุดประสงค์ ของการผสมผสาน และ ความสัมพันธ์ ของข้อมูลเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ

1. การวิจัยเชิงผสมแบบลำดับ

  • แบบผสมผสานเชิงอธิบาย (Explanatory Sequential Design) : เก็บข้อมูลเชิงปริมาณก่อน แล้วนำผลไปใช้ในการออกแบบการวิจัยเชิงคุณภาพ
  • แบบผสมผสานเชิงขยาย (Exploratory Sequential Design) : เก็บข้อมูลเชิงคุณภาพก่อน แล้วนำผลไปใช้ในการออกแบบการวิจัยเชิงปริมาณ
  • แบบผสมผสานแบบพัฒนา (Development Sequential Design) : เก็บข้อมูลทั้งเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ แต่ละวิธีมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาอีกวิธี

2. การวิจัยเชิงผสมแบบพร้อมกัน

  • แบบผสมผสานแบบสามเส้า (Triangulation Design) : เก็บข้อมูลเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณพร้อมกัน เปรียบเทียบและตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล
  • แบบผสมผสานแบบฝังตัว (Embedded Design) : เก็บข้อมูลเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณพร้อมกัน แต่ละวิธีมีบทบาทเสริมซึ่งกันและกัน

3. การวิจัยเชิงผสมแบบแปลง

  • แบบผสมผสานแบบปฏิรูป (Transformative Design) : ผสมผสานข้อมูลเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณเพื่อสร้างทฤษฎีใหม่
  • แบบผสมผสานแบบหลายช่วง (Multi-Phase Design) : เก็บข้อมูลทั้งเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ แบ่งเป็นหลายช่วง แต่ละช่วงมีเป้าหมายเฉพาะ

4. การวิจัยเชิงผสมแบบใหม่

  • แบบผสมผสานแบบออนไลน์ (Online Mixed Methods Research) : ใช้เครื่องมือออนไลน์ในการเก็บข้อมูลทั้งเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ
  • แบบผสมผสานแบบภาพ (Visual Mixed Methods Research) : ใช้ข้อมูลภาพประกอบการวิเคราะห์ทั้งเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ

การเลือกประเภทของการวิจัยเชิงผสม

การเลือกประเภทของการวิจัยเชิงผสม ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ดังนี้

  • ปัญหาการวิจัย : ปัญหาการวิจัยที่ซับซ้อนเหมาะกับการใช้การวิจัยเชิงผสม
  • วัตถุประสงค์ของการวิจัย : ต้องการข้อมูลเชิงลึก ต้องการทฤษฎีใหม่ ต้องการตรวจสอบความถูกต้อง
  • ทรัพยากร : เวลา เงินทุน บุคลากร
  • ทักษะของนักวิจัย : ความรู้ความเข้าใจในวิธีการวิจัยทั้งเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ

สรุป

การวิจัยเชิงผสมเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการศึกษาปัญหาการวิจัยที่ซับซ้อน การเลือกประเภทของการวิจัยเชิงผสมที่เหมาะสม ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ