คลังเก็บป้ายกำกับ: IRR ในอสังหาริมทรัพย์

IRR คืออะไร? การคำนวณและตัวอย่าง

IRR คืออะไร?

IRR (Internal Rate of Return) หรือ อัตราผลตอบแทนภายใน คือ อัตราผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับจากการลงทุน โดยคำนวณจากกระแสเงินสดที่จ่ายออกไปและกระแสเงินสดที่ได้รับจากการลงทุน กระแสเงินสดที่จ่ายออกไป ได้แก่ ค่าลงทุน ค่าบำรุงรักษา ค่าดำเนินการ เป็นต้น ส่วนกระแสเงินสดที่ได้รับ ได้แก่ เงินปันผล เงินเช่า ค่าขาย เป็นต้น

IRR คืออะไร? การคำนวณและตัวอย่าง โดย IRR มักใช้เปรียบเทียบกับอัตราผลตอบแทนของการลงทุนทางเลือกหรือต้นทุนของเงินทุน เพื่อพิจารณาว่าการลงทุนนั้นมีความคุ้มค่าหรือไม่

การคำนวณ IRR

การคำนวณ IRR สามารถทำได้หลายวิธี วิธีที่ง่ายที่สุดคือการใช้โปรแกรมสำเร็จรูป เช่น Microsoft Excel หรือ Google Sheets โดยใช้ฟังก์ชัน IRR หรือ XIRR

  • ฟังก์ชัน IRR

ฟังก์ชัน IRR ใน Microsoft Excel จะคำนวณ IRR โดยเริ่มต้นจากการประมาณค่า IRR จากนั้นจะวนรอบการคำนวณจนกว่าจะหาค่า IRR ที่ถูกต้อง ฟังก์ชัน IRR มีรูปแบบดังนี้

=IRR(กระแสเงินสดที่จ่ายออกไป; กระแสเงินสดที่ได้รับ)

โดยที่

  • กระแสเงินสดที่จ่ายออกไป คือ กระแสเงินสดที่จ่ายออกไปทั้งหมดในช่วงระยะเวลาของการลงทุน
  • กระแสเงินสดที่ได้รับ คือ กระแสเงินสดที่ได้รับทั้งหมดในช่วงระยะเวลาของการลงทุน

ตัวอย่างการคำนวณ IRR ด้วยฟังก์ชัน IRR ใน Microsoft Excel มีดังนี้

=IRR(-100000;50000;50000;50000;50000)

ผลลัพธ์ที่ได้คือ 15.24% ซึ่งหมายความว่า การลงทุนในธุรกิจร้านกาแฟของนาย A จะให้ผลตอบแทนภายในที่ 15.24% ต่อปี

  • ฟังก์ชัน XIRR

ฟังก์ชัน XIRR ใน Microsoft Excel จะคำนวณ IRR โดยใช้วิธีหาค่าดอกเบี้ยทบต้นที่สอดคล้องกับกระแสเงินสดของการลงทุน ฟังก์ชัน XIRR มีรูปแบบดังนี้

=XIRR(กระแสเงินสด; ช่วงเวลา; อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น)

โดยที่

  • กระแสเงินสด คือ กระแสเงินสดที่ได้รับทั้งหมดในช่วงระยะเวลาของการลงทุน
  • ช่วงเวลา คือ ช่วงเวลาของกระแสเงินสดแต่ละรายการ
  • อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น คือ อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้นที่ใช้ในการคำนวณ

ตัวอย่างการคำนวณ IRR ด้วยฟังก์ชัน XIRR ใน Microsoft Excel มีดังนี้

=XIRR(-100000;{0;1;2;3;4};0)

ผลลัพธ์ที่ได้คือ 15.24% ซึ่งหมายความว่า การลงทุนในธุรกิจร้านกาแฟของนาย A จะให้ผลตอบแทนภายในที่ 15.24% ต่อปี

  • การคำนวณ IRR ด้วยตนเอง

การคำนวณ IRR ด้วยตนเองสามารถทำได้โดยใช้สูตรทางคณิตศาสตร์ สูตรการคำนวณ IRR มีดังนี้

IRR = √(1 + r)^n - 1

โดยที่

  • r คือ อัตราผลตอบแทนภายในที่ต้องการหา
  • n คือ ระยะเวลาของการลงทุน

ตัวอย่างการคำนวณ IRR ด้วยสูตรทางคณิตศาสตร์ มีดังนี้

สมมติว่านาย A ลงทุนในธุรกิจร้านกาแฟ โดยลงทุนครั้งแรก 100,000 บาท คาดว่าจะได้รับเงินปันผลปีละ 50,000 บาท เป็นเวลา 5 ปี การคำนวณ IRR ของการลงทุนนี้ มีดังนี้

IRR = √(1 + r)^5 - 1

แทนค่า n = 5 และ PV = -100,000 ลงในสมการจะได้ดังนี้

IRR = √(1 + r)^5 - 1
IRR = √(1 + r)^5 - (-100000)
IRR = √(1 + r)^5 + 100000

จากนั้นนำค่า IRR ที่ได้ไปลองแทนในสมการข้างต้นจนกว่าจะได้ค่า PV เท่ากับ 0

จากการคำนวณจะได้ว่า IRR ของการลงทุนนี้คือ 15.24%

ข้อจำกัดของ IRR

IRR มีข้อจำกัดบางประการที่นักลงทุนควรพิจารณาก่อนตัดสินใจลงทุน ได้แก่

  • IRR ไม่คำนึงถึงความเสี่ยงของการลงทุน
  • IRR ไม่คำนึงถึงระยะเวลาคืนทุนของการลงทุน
  • IRR ไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกับการลงทุนที่มีกระแสเงินสดต่างกันได้

ดังนั้น นักลงทุนควรพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ ประกอบไปด้วย เช่น ความเสี่ยงของการลงทุน ระยะเวลาคืนทุน เป็นต้น

ตัวอย่าง IRR

สมมติว่านาย B กำลังพิจารณาการลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์ โดยลงทุนครั้งแรก 10 ล้านบาท คาดว่าจะได้รับเงินปันผลปีละ 2 ล้านบาท เป็นเวลา 10 ปี การคำนวณ IRR ของการลงทุนนี้ มีดังนี้

=IRR(-10000000;200000;200000;200000;...;200000)

ผลลัพธ์ที่ได้คือ 12.5% ซึ่งหมายความว่า การลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์ของนาย B จะให้ผลตอบแทนภายในที่ 12.5% ต่อปี

สรุป

IRR คืออะไร? การคำนวณและตัวอย่าง จากตัวอย่างข้างต้น จะเห็นว่า IRR ของการลงทุนทั้งสองโครงการสูงกว่าอัตราผลตอบแทนของการลงทุนทางเลือกทั่วไป เช่น ฝากเงินธนาคาร ดังนั้น การลงทุนทั้งสองโครงการจึงมีความคุ้มค่า อย่างไรก็ตาม IRR เป็นเพียงตัวชี้วัดหนึ่งเท่านั้น ในการตัดสินความคุ้มค่าของการลงทุน นักลงทุนควรพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ ประกอบไปด้วย เช่น ความเสี่ยงของการลงทุน ระยะเวลาคืนทุน เป็นต้น

IRR ในการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์

IRR หรือ อัตราผลตอบแทนภายใน (Internal Rate of Return) เป็นเครื่องมือทางการเงินที่ใช้ในการประเมินความคุ้มค่าของการลงทุน โดยการหาอัตราดอกเบี้ยที่ส่งผลให้มูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV) ของโครงการการลงทุนเท่ากับศูนย์

IRR มีประโยชน์ในการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์หลายประการ ดังนี้

  • ช่วยให้ตัดสินใจว่าควรลงทุนหรือไม่

IRR บอกถึงอัตราผลตอบแทนที่โครงการการลงทุนจะสร้างได้ หาก IRR สูงกว่าต้นทุนของเงินทุน แสดงว่าโครงการการลงทุนนั้นสร้างผลตอบแทนได้มากกว่าต้นทุนที่ลงทุนไป และควรลงทุนในโครงการนั้น

  • ช่วยเปรียบเทียบโครงการการลงทุนที่มีกระแสเงินสดสุทธิต่างกัน

IRR บอกถึงอัตราผลตอบแทนที่โครงการการลงทุนจะสร้างได้ โครงการที่มี IRR สูงกว่าจึงสร้างผลตอบแทนได้มากกว่าโครงการที่มี IRR ต่ำกว่า

  • ช่วยวิเคราะห์ความเสี่ยงของโครงการ

IRR สามารถใช้วิเคราะห์ความเสี่ยงของโครงการ โดยพิจารณาจากความผันผวนของ IRR หาก IRR มีความผันผวนสูง แสดงว่าโครงการมีความเสี่ยงสูง

การคำนวณ IRR ในการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์

การคำนวณ IRR ในการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์สามารถทำได้โดยพิจารณาจากกระแสเงินสดสุทธิของโครงการทั้งหมด ซึ่งรวมถึงรายได้จากการเช่า เงินปันผลจากการขายอสังหาริมทรัพย์ และเงินทุนที่จะได้รับจากการขายอสังหาริมทรัพย์ในอนาคต

ตัวอย่างเช่น หากมีการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์แห่งหนึ่ง มีมูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV) เท่ากับ 100,000 บาท และระยะเวลาคืนทุน (Payback Period) เท่ากับ 5 ปี อัตราคิดลด (Discount Rate) ที่ส่งผลให้ NPV เท่ากับศูนย์คือ IRR ของโครงการนั้น

กรณีตัวอย่าง

สมมติว่านักลงทุนคนหนึ่งต้องการซื้อคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งเพื่อปล่อยเช่า โดยคาดว่าจะสามารถเช่าได้ในราคา 30,000 บาทต่อเดือน ระยะเวลาการเช่า 10 ปี และมูลค่าขายคอนโดมิเนียมหลังหมดสัญญาเช่าเท่ากับ 10 ล้านบาท

หากนักลงทุนใช้เงินลงทุน 5 ล้านบาท คำนวณ IRR ของโครงการการลงทุนนี้ จะได้ดังนี้

IRR = 100,000/(1 + r)5 + 30,000/(1 + r)10 + 10,000,000/(1 + r)10

โดยที่ r คืออัตราคิดลด

หากใช้อัตราคิดลด 10% จะได้ IRR เท่ากับ 12.4%

หากใช้อัตราคิดลด 12% จะได้ IRR เท่ากับ 10.8%

ดังนั้น หากนักลงทุนใช้อัตราคิดลด 10% การลงทุนในคอนโดมิเนียมนี้จะให้ IRR เท่ากับ 12.4% ซึ่งสูงกว่าต้นทุนเงินทุนที่นักลงทุนคาดหวังไว้ (โดยทั่วไปมักใช้อัตราคิดลดที่ประมาณ 10-12%) ดังนั้นนักลงทุนจึงควรตัดสินใจลงทุนในคอนโดมิเนียมนี้

ข้อควรระวัง

IRR ในการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์มีข้อควรระวังบางประการดังนี้

  • IRR อาจไม่สะท้อนถึงความเสี่ยงของโครงการ

IRR เป็นเพียงอัตราผลตอบแทนที่ส่งผลให้มูลค่าปัจจุบันสุทธิเท่ากับศูนย์เท่านั้น ไม่ได้สะท้อนถึงความเสี่ยงของโครงการ เช่น ความเสี่ยงด้านความผันผวนของค่าเช่า ความเสี่ยงด้านคู่แข่ง ความเสี่ยงด้านกฎหมาย เป็นต้น

  • IRR อาจให้ผลลัพธ์ที่ขัดแย้งกันได้

หากโครงการการลงทุนมีกระแสเงินสดเข้าและออกที่ไม่สม่ำเสมอ อาจเกิดกรณีที่ IRR และ NPV ขัดแย้งกันได้ ตัวอย่างเช่น หากโครงการการลงทุนมีกระแสเงินสดออกในช่วงแรก และกระแสเงินสดเข้าในช่วงหลัง หากใช้อัตราคิดลดที่สูง จะทำให้ NPV มีค่าเป็นลบ แต่หากใช้อัตราคิดลดที่ต่ำ จะทำให้ IRR มีค่าเป็นบวก

  • IRR ไม่สามารถเปรียบเทียบโครงการที่มีระยะเวลาต่างกันได้

หากโครงการมีระยะเวลาต่างกัน IRR อาจไม่สามารถเปรียบเทียบได้อย่างชัดเจน ต้องใช้วิธีอื่น เช่น ระยะเวลาคืนทุน หรืออัตราผลตอบแทนต่ออายุ ในการเปรียบเทียบ